อุตสาหกรรมชุดคลุมป้องกันแบบใช้แล้วทิ้งมีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มขึ้น รวมถึงชุดคลุมด้วย
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ
ชุดคลุมป้องกันแบบใช้แล้วทิ้ง อุตสาหกรรมมีความตระหนักถึงความสำคัญของอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้นายจ้างและลูกจ้างตระหนักมากขึ้นถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอันตรายในที่ทำงาน เช่น การสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือโรคติดเชื้อ สิ่งนี้นำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ PPE คุณภาพสูงที่สามารถให้การป้องกันที่เชื่อถือได้
อีกปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเติบโตในอุตสาหกรรมคือการพัฒนาวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะนี้ผู้ผลิตกำลังผลิตชุดคลุมที่ทำจากวัสดุขั้นสูง เช่น ฟิล์มที่มีรูพรุนขนาดเล็ก ซึ่งให้การป้องกันของเหลวและอนุภาคในอากาศที่ดีขึ้น
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมชุดคลุมป้องกันแบบใช้แล้วทิ้ง การแพร่ระบาดทำให้ความต้องการ PPE เพิ่มมากขึ้น รวมถึงชุดคลุม เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็นอื่นๆ ต้องการการปกป้องจากไวรัส เป็นผลให้อุตสาหกรรมเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ผลิตที่ทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ อุตสาหกรรมชุดคลุมป้องกันแบบใช้แล้วทิ้งได้ใช้กลยุทธ์หลายประการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผู้ผลิตได้เพิ่มกำลังการผลิต ปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และดำเนินมาตรการควบคุมคุณภาพใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังได้เปิดรับช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อชุดคลุมได้ง่ายขึ้น สิ่งนี้ช่วยปรับปรุงการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันสำหรับคนงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การดูแลสุขภาพไปจนถึงการก่อสร้าง